เลือกลงทุนอะไรดี สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนความเสี่ยงต่ำ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินมักกล่าวว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง แต่ถ้าไม่ลงทุนอะไรเลยก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน” ยุคนี้ผู้คนจึงให้ความสนใจเรื่องความรู้ทางการเงินมากขึ้น เริ่มตั้งคำถามว่า จะลงทุนอะไรดีเพื่อให้มีรายได้แบบ Passive Income เข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็ต้องระลึกไว้เสมอด้วยว่า การลงทุนมีความไม่แน่นอน การศึกษาหาความรู้และทำความเข้าใจในทุกการลงทุน จะช่วยลดความเสี่ยงได้ สำหรับผู้ที่ไม่เคยลงทุนมาก่อน หรือมีประสบการณ์ในการลงทุนน้อย ยังไม่รู้จะนำเงินไปลงทุนกับอะไรดี ควรเลือกลงทุนในรูปแบบที่มีความเสี่ยงต่ำก่อน หากเริ่มเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น จึงค่อยเลือกลงทุนรูปแบบที่มีความเสี่ยงสูงต่อไป
ลงทุนอะไรดี ที่เป็นการลงทุนความเสี่ยงต่ำ และทุกคนลงทุนได้ไม่ยาก
การลงทุนที่อยากแนะนำให้คนที่ยังไม่รู้จะลงทุนอะไรดีก็คือ การลงทุนในกองทุนรวม เนื่องจากเป็นรูปแบบการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนประเภทอื่น ๆ ไม่ต้องบริหารจัดการการลงทุนเอง เพราะมีผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญดูแลให้ อีกทั้งยังมีความสะดวกสบายในการซื้อขาย ด้วยเทคโนโลยีโมบายแบงก์กิ้งในปัจจุบัน หากเป็นการลงทุนรูปแบบอื่น เช่น การทำธุรกิจ การลงทุนในหุ้น การสะสมทองคำ ต้องอาศัยระยะเวลาศึกษาทำความเข้าใจทั้งเรื่องเศรษฐกิจ กลไกราคา และมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากกลไกตลาดที่ผันผวนอยู่ตลอดเวลา กองทุนรวมจึงเป็นรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสำหรับการลงทุนความเสี่ยงต่ำมากที่สุด โดยมี 3 ประเภทกองทุนนี้ที่เราขอแนะนำ
- กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ
กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ เป็นกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์อายุไม่เกิน 1 ปี โดยสินทรัพย์ที่ลงทุนนั้น เน้นลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้จากองค์กรที่มั่นคง มีความน่าเชื่อถือ ได้แก่ เงินฝากประจำ พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วแลกเงิน และหุ้นกู้ของบริษัทเอกชนที่มีความน่าเชื่อถือ จึงเหมาะกับคนที่ยังไม่รู้จะลงทุนอะไรดี และต้องการลงทุนในรูปแบบที่สามารถรักษาเงินต้นไว้ได้ หรือต้องการพักเงินไว้ก่อน ผลตอบแทนของกองทุนรวมตลาดเงินในประเทศมักจะมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าการฝากเงินออมทรัพย์ นอกจากนี้ยังไม่ต้องเสียภาษีจากผลตอบแทนที่ได้ ไม่ว่าจะลงทุนในจำนวนที่มากหรือน้อยก็ตาม โดยรวมแล้วกองทุนประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะสั้นและมีความคล่องตัวสูง
- กองทุนรวมตราสารหนี้
กองทุนรวมตราสารหนี้ เป็นกองทุนรวมที่ขยับระดับความเสี่ยงขึ้นมาอีกเล็กน้อย แต่ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเช่นกัน กองทุนรวมประเภทนี้เน้นลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เริ่มมีความผันผวนเพราะเกี่ยวข้องกับปัจจัยด้านราคาตลาด ผลตอบแทนที่รับจะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ลงทุน เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีความรู้ความเข้าใจแล้วว่า ตนเองต้องการลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมาย และยอมรับระดับความเสี่ยงได้ถึงระดับปานกลาง ระยะเวลาในการลงทุนกองทุนรวมตราสารหนี้มีทั้งระยะกลางและระยะยาว เพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง ควรเลือกลงทุนตามระยะเวลาที่แนะนำไว้ในแต่ละกองทุน
- กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) เป็นกองทุนรวมที่เหมาะสำหรับผู้ต้องการลงทุนความเสี่ยงต่ำและสามารถถือไว้ได้ในระยะยาวเป็นเวลา 10 ปี และโดยเฉพาะกับผู้ที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีเงินได้ ซึ่งสามารถนำเงินที่ซื้อหน่วยลงทุนไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้ (ไม่เกิน 200,000 บาท) และมีวัตถุประสงค์เพื่อการออมเงินเอาไว้ในระยะยาว อยากลดหย่อนภาษีเพิ่ม และยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากด้วย กองทุนรวมเพื่อการออม จะลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทด้วยกัน ทั้งตราสารหนี้ เงินฝาก หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงทองคำ และที่สำคัญไม่มียอดซื้อขั้นต่ำและไม่ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปีด้วย
มองหากองทุนรวมความเสี่ยงต่ำ ต้องลงทุนอะไรดี
เมื่อเข้าใจรูปแบบของกองทุนรวมความเสี่ยงต่ำแล้ว ทีนี้หากจะเลือกลงทุนอะไรดี ขอแนะนำให้เลือกลงทุนในกองทุนที่มีระดับความเสี่ยงต่ำไปจนถึงระดับความเสี่ยงปานกลาง ขึ้นอยู่กับความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงและเป้าหมายของผู้ลงทุน โดยสามารถเริ่มต้นจากการลงทุนในกองทุนรวมเหล่านี้ได้
- กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน-เพื่อการออม (KFCASHSSF)
กองทุนนี้มีความเสี่ยงต่ำอยู่ที่ระดับ 1 เท่านั้น จะไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล เหมาะอย่างยิ่งสำหรับท่านที่ต้องการลงทุนไปพร้อมกับการลดหย่อนภาษีแบบไม่ต้องกังวลว่า จะสูญเสียเงินต้นจำนวนมาก ซึ่งกองทุนนี้เลือกลงทุนแบบไม่มีความเสี่ยงในต่างประเทศ เป็นการลงทุนในตราสารหนี้ของรัฐบาลไม่ต่ำกว่า 70% ของ NAV ที่เหลือจะลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน เงินฝากธนาคาร และสถาบันการเงินที่เป็นองค์กรที่มั่นคงและมีความน่าเชื่อถือ
- กองทุนเปิดกรุงศรีสมาร์ทตราสารหนี้-สะสมมูลค่า (KFSMART-A)
กองทุนรวมตราสารหนี้เสี่ยงปานกลางค่อนข้างตํ่าระดับ 4 มีนโยบายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มของพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้เอกชน เงินฝาก และสินทรัพย์อื่น ๆ ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล และมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ร้อยละ 90 ของมูลค่าการลงทุนในต่างประเทศ
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับใดก็ตาม ก่อนลงทุนอะไรดีไม่ควรมองที่ผลลัพธ์ปลายทางเพียงอย่างเดียว เพราะนั่นคือเรื่องของอนาคตที่คาดเดาผลลัพธ์แบบ 100% ไม่ได้ การลงทุนที่ดีจึงหมายถึง การพิจารณาความสามารถในการรับความเสี่ยงของตนเอง การศึกษาข้อมูลให้รู้ลึก รู้จริง ของสิ่งที่จะลงทุนก่อนเสมอ ถึงแม้จะเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ก็จำเป็นต้องมีแผนสำรองสำหรับการลงทุนเอาไว้ด้วยไม่ต่างกัน
